Page 83 - 3_60
P. 83
ในส่วนของทหารกองประจ�าการที่ประกอบอาชีพ ทางการตลาดได้ และยังมีการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร
เกษตรกรรมในปัจจุบัน ยังคงเน้นการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ไม่ว่า การบ�ารุงดูแลรักษาเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้สามารถ
จะเป็นอ้อย มันส�าปะหลัง ซึ่งจะมีข้อเสียของการปลูกพืช ดูแลได้ด้วยตนเอง ตลอดจนการหาช่องทางการตลาดจาก
เชิงเดี่ยวคือ เสี่ยงต่อการขาดทุนถ้าราคาตกต�่า ถ้าพูดถึง การรวมกลุ่มเกษตรกร กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร การท�าวิสาหกิจ
ราคาผลผลิตยิ่งแล้วใหญ่ ดิ่งลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าแรง ชุมชน หรือการท�าการสหกรณ์ โดยกองวิชาการเกษตรฯ
น�้ามัน ปุ๋ย ยา ที่เพิ่มสูงขึ้น ทางกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ท�าการฝึกอบรม ยกตัวอย่างเช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จาก
โดยกองวิชาการเกษตร ศูนย์ฝึกศึกษา ส�านักงานทหารพัฒนา วัสดุเหลือใช้ ซึ่งใช้แค่เพียงวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร หรือ
หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ให้ความรู้ทางด้านการเกษตร วัชพืชต่างๆ และมูลสัตว์ โดยใช้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี
แก่ทหารกองประจ�าการเพื่อให้ทหารกองประจ�าการเหล่านั้น ในเรื่องของการควบคุมจุลินทรีย์โดยมีการควบคุมความร้อน
เมื่อปลดประจ�าการไปแล้วกลับไปประกอบอาชีพ น�าความรู้ ภายในกองปุ๋ย การปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน ที่ใช้การปลูกกับ
เทคนิคที่ได้ไปพัฒนาการท�าการเกษตรจากการเริ่มต้น วัสดุปลูกที่สามารถผลิตขึ้นมาเองเพื่อใช้แทนการปลูกในดิน
จากการปรับปรุงบ�ารุงดิน ไปจนถึงการพัฒนาเทคนิคการ หรือการปลูกผักในน�้า หรือการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ที่มี
ปลูกพืช การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรจากผลผลิตที่ สารละลายธาตุอาหารอยู่ในน�้า การใช้และการดูแลเครื่อง
มีมากหรือพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สามารถสร้างมูลค่า จักรกลทางการเกษตร โดยความร่วมมือทางการอบรม
วารสาร 81
ทหารพัฒนา