Page 42 - 2_61
P. 42

ฐานเสียง และพบว่านี่คือสาเหตุประการหนึ่งของสังคม ที่
            ก่อให้เกิดการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย สร้างชนชั้นระหว่างนายทุน

            และกลุ่มคนทั่วไป สะสมเรื่อยมาจนเกิดเป็นความขัดแย้งที่
            รุนแรงในสังคม  ด้วยเหตุที่ระบบประชานิยมต้องมีต้นทุน
            การท�างาน ดังนั้นการต่างตอบแทนและการแสวงหาก�าไรจาก
            การลงทุนจึงเป็นสิ่งที่ตามมาในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คณะ

            รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐบาล
            จึงต้องหาทางแก้ไขปัญหาที่หนักหน่วงนี้ออกจากสังคมไทย
            ด้วย “พลังประชารัฐ”
                  “นักรบสีนํ้าเงิน” ที่ก้าวย่างสู่ปีที่ ๕๖ จึงอยู่ใน

            ช่วงเวลาที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนงานอย่างหนักเพื่อขจัดความ
            ขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในการปรับบทบาทของ นทพ. ให้
            สอดคล้องต่อสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน และตรง
            ตามทิศทางของการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ

            ๒๐ ปีข้างหน้า จึงได้ทบทวนถึงการเชื่อมโยงภารกิจและ
            พันธกิจต่าง ๆ ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ให้
            สอดคล้องต่อรัฐบาล และด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของ   บทกวีดังกล่าวนั้นเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่า “การทหาร
            พลเอก ธงชัย สาระสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหาร  การพาณิชย์ การศิลปิน” ถือเป็นหัวใจหลักของบ้านเมืองที่

            พัฒนา ภายหลังเข้ารับต�าแหน่งในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ ที่   ช่วยให้ประเทศชาติอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น บริบท
            ประกาศเจตนารมณ์ประการหนึ่งไว้คือ ให้ระดมความคิด   ของงานประชารัฐที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้จัดท�า
            จัดท�าคติพจน์ (MOTTO) เพื่อใช้เป็นอัตลักษณ์ของหน่วย    โครงการประชารัฐ “๑ ประชารัฐ ๑ ภูมิภาค” ขึ้นมาในห้วง
            ในที่สุดปีที่ ๕๖ ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ก็ได้คติพจน์   ปีนี้นั้น จึงเป็นบทบาทที่ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจะ

            ประจ�าหน่วยขึ้นมา เพื่อใช้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของ “นักรบสีนํ้าเงิน”    เสริมสร้างความมั่นคงได้มากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวนโยบายของ
            ให้คงยืนหยัดมั่นคงต่อไป  นั่นก็คือ  “เทิดทูนสถาบัน    รัฐบาลอย่างชัดเจน
            มุ่งมั่นพัฒนา ประชารัฐมั่นคง”
                  จากบทกวีบทหนึ่งที่ชื่อว่า “หัวใจเมือง” ซึ่งเขียนโดย

            ถนอม อัครเศรณี (อัครรักษ์) ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นกลอน  ... เริ่มจากอุดมการณ์ จนถึงประชารัฐ ...
            ที่สื่อความหมาย มีข้อคิดเตือนใจและเตือนสติให้กับคนไทย  นทพ. ปัจจุบันคือ หน่วยงาน “กองอ�านวยการกลาง
            ได้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งจะขอยกมาให้ได้อ่านกันอีกสักครั้ง คือ  รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (กรป.กลาง)” ในอดีต ที่ก่อตั้ง

                                                             ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ เป็นหน่วยงานพิเศษของรัฐบาล
                  “เมืองใดไม่มีทหารหาญ  เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า  ขณะนั้น ที่ประสานการปฏิบัติและรวมขีดความสามารถ
            เมืองใดไร้จอมพารา         เมืองนั้นไม่ช้าอับจน   ของส่วนราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม มาไว้ในที่เดียวกัน
                  เมืองใดไม่มีพณิชเลิศ  เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน  เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติงานแก้ปัญหาที่กลุ่มที่ฝักใฝ่ในลัทธิ
            เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ          เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม  คอมมิวนิสต์ใช้เงื่อนไขความอดอยาก ยากจนของราษฎร

                  เมืองใดไม่มีกวีแก้ว   เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม  เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชน
            เมืองใดไร้นารีงาม           เมืองนั้นหมดความภูมิใจ  ท�าลายความเชื่อมั่นที่ประชาชนพึงมีต่อรัฐบาล จนน�ามา
                  เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ  เมืองนั้นไม่เพริศพิสมัย  ซึ่งความรุนแรงและเกิดการปะทะต่อสู้ขึ้นระหว่างคนไทย
            เมืองใดไร้ธรรมอ�าไพ       เมืองนั้นบรรลัยแน่เอย.”  ด้วยกันเอง โดยปัจจัยแห่งความยากจนถือว่าเป็นหน้าที่

                                                             ที่หน่วยงานของรัฐจะต้องช่วยกันขจัดทุกข์ของประชาชนให้
                                                             หมดสิ้นไป


     40    วารสาร
          ทหารพัฒนา
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47