Page 88 - 4_61
P. 88

ท่านได้เรียบเรียง



             “เสน่ห์ของผ้าขี้ริ้ว” ไว้ ๙ ประการ ดังนี้








                 ๑. ยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่  ยินดีมาใช้บริการความรู้ความสามารถของตน และยินดีที่จะ
           ยอมล�าบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข เช่น พ่อแม่ยอมเหนื่อยลูกหลาน เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าที่จะคิดเข้าไปบริหาร แปลว่า
           สุขสบาย                                            ท�าตัวให้เหมือนผ้าขี้ริ้วนั่นเอง
                 ๒. ดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดคราบสกปรกออก        ๗. พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนต้อง

           จากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึง พอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความส�าเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจ
           เวลาต้องช�าระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้ แล้วแกล้งบอก ที่จะท�างานปิดทองหลังพระ มีความสุข และภูมิใจที่มอบความ
           ว่าตนเองสะอาด                                      ส�าเร็จให้แก่คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคนท�างานแล้ว ท�าให้

                 ๓. เป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรก ผู้ใหญ่เล็กลงในขณะที่ตนเองโตขึ้น
           ที่สุด เหมือนคนที่หมั่นฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและ  ๘. ทนทานต่อการขัดถูและซักล้าง ไม่เปราะบาง
           อ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้คนรังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขา เหมือนคนที่มีความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะ
           ก็จะเป็นคนมีคุณค่า ไม่ว่ามาจากสกุลใด การศึกษามากหรือ เหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้เพื่อให้ส�าเร็จประโยชน์สุขแก่
           น้อยก็ตาม ท�าตัวให้เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดรู้ เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้ว ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบาง

           ห่อทองให้ได้                                             ๙. แม้นจะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ก็ไม่ท�าตัวให้ขี้เหร่
                 ๔. แม้นว่าเป็นผ้าที่ไม่มีราคา แต่ก็มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ เหมือนคนที่รู้ตนเองว่า มีคนก�าลังปรามาสสบประมาท จะต้อง
           ได้ เหมือนคนที่พยายามท�าตนเองให้มีคุณค่าด้วยการท�างาน ตั้งใจเอาชนะอุปสรรคตรงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ตามค�าปรามาส

           ท�าตนเป็นประโยชน์ให้มีค่า ไม่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต�่าใจใน ของคนอื่น รู้ตัวตลอดว่าก�าลังท�าอะไรและให้มีก�าลังใจในสิ่งนั้น
           วาสนา ชะตาชีวิต                                    ที่ส�าคัญคือ มองหาความส�าคัญจากสิ่งที่คนมองไม่เห็นว่า
                 ๕. ไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่ยอมตัว  ส�าคัญอย่างไรให้ได้คือสามารถมองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คน
           อาสาท�างานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน  ทั้งหลายมองว่าไร้ค่า
           อาสางาน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม ตั้งใจท�าโดยไม่เกี่ยงงาน

           รู้จักเสนอตัวท�างาน มิใช่รอคอยแต่ค�าร้องขอ           ที่มา : “หนังสือ แม่...ชีวิตคืออะไร?” โดย ปิยโสภณ/สุวิทย์ ปิยวิชฺโช
                 ๖. ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมท�าในสิ่ง
           ที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าไร้ค่า เป็นงานชั้นต�่า แต่ก็

           ตั้งใจท�าให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการเหมือน
           คนที่เอิบอิ่มเมื่อชีวิตบริการรับใช้ผู้อื่นรับใช้สังคม ดีใจเมื่อคน




















       86    วารสาร
           ทหารพัฒนา
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93