Page 43 - วารสารเล่มที่1ปี62
P. 43
พระยารัตนาธิเบศร์ (พระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับ
บริติชมิวเซียมและพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับ
พันจันทนุมาศ (เจิม) ออกชื่อเป็น พระยาธรรมา) ซึ่งได้รับ
มอบหมายให้ไปตั้งทัพสกัดกองทัพพม่าน�าโดยเจ้ามังระราชบุตร
และมังฆ้องนรธา อันยกมาทางเมืองมะริดและตะนาวศรี
หลังจากตีทัพของพระยายมราชแห่งอยุธยาที่แก่งตุ่ม
แขวงเมืองตะนาวศรีแตกแล้ว ทัพดังกล่าวจึงเดินทางข้าม
ด่านสิงขรมุ่งสู่เมืองกุยบุรี เพื่อใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งทะเล
เข้าสู่กรุงศรีอยุธยา พระยารัตนาธิเบศร์ซึ่งรั้งทัพอยู่ที่กุยบุรี
จึงส่งกองอาทมาตของขุนรองปลัดชูให้มาสกัดทัพอยู่ที่
อ่าวหว้าขาว (ปัจจุบันอยู่ในเขตต�าบลอ่าวน้อย อ�าเภอเมือง
ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) กองอาทมาต
ของขุนรองปลัดชูได้ปะทะกับกองทัพพม่าซึ่งมีก�าลังราว
๘,๐๐๐ คน ตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงก็ยังไม่แพ้ชนะ แต่ด้วย
จ�านวนที่น้อยกว่าและไม่ได้รับก�าลังเสริมจากทัพของ
พระยารัตนาธิเบศร์ (พระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับ
บริติชมิวเซียมและพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับ
พันจันทนุมาศ (เจิม) กล่าวว่า ได้รับไพร่พลจากทัพหลักเป็น
กองหนุนสมทบอีก ๕๐๐ คน) กองอาทมาตจึงตกอยู่ในสภาพ
เสียเปรียบเพราะความอ่อนล้า และถูกฝ่ายตรงข้ามไล่ต้อน
ลงทะเลฆ่าฟันจนเสียชีวิตทั้งหมดในวันนั้น ด้านทัพของ
วารสาร 41
ทหารพัฒนา