Page 97 - วารสาร ฉบับที่ ๔
P. 97

การฝึกตามขั้นตอนเหล่านี้จะต้องท�าสม�่าเสมอในช่วง ๖ เดือน-๓ ปีแรก เพราะเป็นช่วงวัยรุ่นของ
            น้องหมา เมื่อเลยห้วงเวลานี้ไปแล้ว หมาจะเริ่มจดจ�า และรู้ความว่าสิ่งใดควรไม่ควร ซึ่งโดยสัญชาตญาณ

            หมาจะพยายามท�าตัวให้จ่าฝูงคือเจ้าของพึงพอใจ เพื่อที่จะอยู่ได้โดยสงบไม่ถูกข่มขู่ท�าร้าย  ในทางกลับกัน
            หากไม่ฝึกแต่ยังเล็ก มาแก้ไขเมื่อตอนโต ก็อาจจะแก้ไขได้ยาก หรือไม่ได้เลย จนน�าไปสู่ปัญหาการอยู่ร่วมกับ

            คนในที่สุด

            การข่มเหนือหลักๆ ที่เจ้าของต้องหมั่นปฏิบัติในชีวิตประจ�าวัน

                  ทุกคนในครอบครัวต้องเข้าใจตรงกันว่า ต้องปฏิบัติกับน้องหมาในสถานะที่เป็นน้องเล็กที่สุดของบ้าน ไม่ใช่เจ้านาย กำรอยู่
            ร่วมกันในชีวิตประจ�ำวันต้องมีกฏเพื่อบังคับให้เค้ำส�ำนึกตัวอยู่เสมอๆว่ำอยู่ในฐำนะใด  เพื่อเป็นกำรป้องกันไม่ให้เค้ำแสดงควำมเหิม
            เกริมและพยำยำมอยำกเป็นใหญ่ ซึ่งทั่วไปแล้วมีดังนี้

                  ๑. ไม่ให้อนุญำตให้หมำขึ้นมำนั่งบนโซฟำหรือนอนบนเตียง
            หรือแคร่ไม้โดยที่ไม่ได้รับอนุญำตอย่ำงเด็ดขำด
                  ๒. กำรที่เค้ำขึ้นคร่อมขำสมำชิกในครอบครัวมักเกิดขึ้น
            ได้บ่อย เมื่อน้องหมำโตขึ้น พฤติกรรมนี้ไม่ได้แสดงถึงพฤติกรรม
            ทำงเพศที่ไม่เหมำะสม  แต่มันคือกำรแสดงอำกำร “มีอ�านาจ
            เหนือกว่า” แม้แต่น้องหมำตัวเมีย ก็จะปฏิบัติเช่นนี้ต่อตัวที่มี
            ต�ำแหน่ง ต�่ำกว่ำ ดังนั้น หำกเค้ำแสดงพฤติกรรมแบบนี้กับสมำชิก
            ในบ้ำน โดยเฉพำะเด็กๆให้ด�ำเนินกำร“ข่มเหนือ”ทันที  ยิ่งเด็กๆ
            เหล่ำนั้น“ข่มเหนือ”ได้เอง จะได้ผลดียิ่งขึ้น
                  ๓. แสดงกำรข่มเหนือขณะเล่นด้วยกัน และกำรฝึกแย่ง
            อำหำรตำมที่ได้กล่ำวไปแล้ว
                  ๔. กำรจ้องตำ เรำต้องสบตำกับน้องหมำทุกครั้งเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ไม่ว่ำจะเล่น หรือแค่เดินสวนกัน เพรำะเป็นกำรตอกย�้ำว่ำ
            เรำเป็นเจ้ำของและไม่กลัวเค้ำ  แต่ก็ไม่ควรจ้องตำกับน้องหมำของคนอื่นที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพำะขณะก�ำลังหงุดหงิดหรือโมโห เพรำะ
            จะเป็นกำรยั่วยุให้เค้ำตรงเข้ำท�ำร้ำยเรำได้
                  ทั้งนี้ในหมำวัยรุ่นทุกสำยพันธุ์ กำรพำไปออกก�ำลังประจ�ำวันจะช่วยให้เค้ำได้ปลดปล่อยพลังงำนส่วนเกินออกไป ท�ำให้ฝึกได้
            ง่ำยขึ้น และเป็นกำรกระชับควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเจ้ำของและน้องหมำ  กำรพำไปออกก�ำลังนี้ส�ำคัญมำกในหมำใหญ่บ้ำพลังทั้งหลำย
            ที่จะส่งผลทั้งสภำพร่ำงกำยและจิตใจที่มั่นคงแข็งแรง อีกทั้งยังอยู่ในกำรควบคุมของเรำ ดีกว่ำไปกัดแทะท�ำลำยสิ่งของหรือเป็ดไก่

            ข้ำงบ้ำน แต่ก็ควรค�ำนึงถึงสภำพอำกำศที่เหมำะสมด้วย  เพรำะเค้ำจะอำจสนุกสนำนเพลิดเพลินจนร่ำงกำยร้อนเกินไป เป็นลมแดด
            (heat  stroke) เสียชีวิตได้
                  ส่วน วิธีแบบโบรำณที่จะให้หมำเชื่อฟังก็คือ กำรเฆี่ยนตี ซึ่งไม่ควรท�ำด้วยอำรมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ หรือรุนแรงเกินควร โดยพำะ
            ถ้ำเรำตีเค้ำบ่อยครั้งเกินไป พวกเค้ำจะไม่ไว้ใจในมนุษย์ และเริ่มดุร้ำยหวำดกลัวอย่ำงไร้สำเหตุ ดังนั้นสิ่งที่เจ้ำของควรกระท�ำต่อน้อง
            หมำนั่นก็คือกำรให้ควำมสนใจเค้ำ ชมเชยเค้ำ และแสดงออกว่ำรักเค้ำอยู่เสมอ และที่ส�ำคัญอย่ำ ลืมว่ำไม่เพียงแค่น้องหมำเท่ำนั้นที่
            ต้องเรียนรู้ แต่ตัวเจ้ำของเองก็ต้องเรียนรู้เช่นกันว่ำควรต้องท�ำอะไร เพื่อให้เค้ำเข้ำใจว่ำ เขำต้องปฏิบัติตัวอย่ำงไรจึงเป็นกำรเหมำะสม
                  ก็จบแล้วครับส�ำหรับกำรปรับพฤติกรรมเบื้องต้น หำกพี่ๆเข้ำใจดีแล้วก็ควรน�ำไปท�ำควำมเข้ำใจกับสมำชิกคนอื่นๆในบ้ำน และ
            ปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทำงเดียวกัน  เพื่อรักระหว่ำงคนกับหมำที่มั่นคงและยั่งยืนครับ.....สวัสดี...จบมันดื้อๆนี่แหละ๕๕๕๕



                                                                                                  วารสาร 97
                                                                                              ทหารพัฒนา
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102