Page 106 - 3_60
P. 106
หากมีน�้าไหลเข้าไปต้องเทออกเป็นระยะ เพื่อไม่ให้เท้าเปียกชื้นนาน ๒. การติดเชื้อที่ผิวหนัง (Skin Infection)
และที่ส�าคัญคือ ควรรีบฟอกล้างเท้าด้วยสบู่และน�้าสะอาดทันที ผิวหนังปกติของคนเรามีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง
หลังการสัมผัสน�้าสกปรก เช็ดเท้าโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วให้แห้ง สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ซึมผ่านเข้ามา
อยู่เสมอ และในกรณีที่มีแผลเปิด ควรฟอกล้างด้วยน�้ายาฆ่าเชื้อ ในร่างกายได้ แต่ช่วงน�้าท่วมอาจมีการแช่น�้าบ่อยๆ จนผิวหนังเปื่อย
ส�าหรับท�าความสะอาดแผลและท�าแผลใหม่ทุกครั้งนะคะ หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดบาดแผลโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น เหยียบลงไป
การดูแลรักษา – ระวังไม่ให้ผิวหนังที่อักเสบ สกปรก บนของมีคมที่มากับน�้าท่วม เหล่านี้ท�าให้กลไกการป้องกัน
หรืออับชื้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีหรือสารที่ก่อความระคายเคือง ของผิวหนังลดลง ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรก ทั้งจากในน�้าที่
เช่น การฟอกเท้าด้วยผงซักฟอก เพราะจะยิ่งท�าให้ผิวหนัง ท่วมขังเองหรือจากแหล่งอื่นๆ จึงมีการติดเชื้อได้ง่าย ได้แก่
ระคายเคืองและอักเสบมากขึ้นได้ ๒.๑ โรคผิวหนังติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial
- หากมีอาการคัน สามารถใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ Skin Infection)
ซึ่งช่วยลดอาการคันและลดการอักเสบบริเวณผื่นได้ เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ผิวหนังส่วนที่อ่อนแอ แล้ว
ข้อควรระวัง – ไม่ควรเลือกใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ ก่อให้เกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้น
ยาต้านเชื้อราในผู้ที่เป็นโรคน�้ากัดเท้า เนื่องจากยาจะเพิ่มการ อาการแสดง มีทั้งแบบการติดเชื้อของผิวหนังชั้นตื้น
ระคายเคืองต่อผิวหนังโดยไม่จ�าเป็น อาการพบได้ตั้งแต่ ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าหนาและมีหลุมเล็กๆ
- หลังทายาสเตียรอยด์ไประยะหนึ่ง หากอาการของ มีกลิ่นเหม็น ไปจนถึงผิวหนังแดง เจ็บ หรือแผลที่หายช้า มีหนอง
ผื่นดูแย่ลง เช่น ปวด บวม แดง ร้อนขึ้น มีหนอง ผื่นแดงเป็นวง และกลุ่มรูขุมขนอักเสบ ตุ่มหนองชั้นตื้น เป็นต้น แต่หากการติดเชื้อ
ขยายใหญ่ขึ้น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกอาการที่พบอาจรุนแรงขึ้น คือมีอาการปวด
ให้หยุดทายาและไปพบแพทย์ค่ะ บวมแดงร้อน กดเจ็บ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม การติดเชื้อ
อาจลามอย่างรวดเร็วไปยังผิวหนังบริเวณใกล้เคียง และหาก
เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดอาจมีอาการไข้และมีต่อมน�้าเหลืองบริเวณ
ขาหนีบโตได้
104 วารสาร
ทหารพัฒนา
