Page 48 - 1_61
P. 48

๕. เสริมแรงจูงใจ


                                                                    อย่ารอให้ใครมาจูงใจเรา เราต้องเริ่มจูงใจตัวเองให้มี

              ๓. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง                       “แรงจูงใจ” อะไรดีๆ เช่น กล้าที่จะเข้าชั้นเรียนอะไรใหม่ๆ
                                                              ซึ่งเมืองไทยมีให้เลือกมากมาย เช่น เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ จาก
                    ท�าตัวให้มีชีวิตชีวา และหัดใช้ชีวิตแบบเรียบ-ง่าย- มหาวิทยาลัยเปิด วิทยาลัยสารพัดช่าง ไม่จ�าเป็นต้องเรียน
              ประหยัด เช่น ถ้าจะดื่มชา ควรหัดไม่พึ่งพิงว่า จะต้องชาจากที่ เอาวุฒิ หรือปริญญามาเก็บไว้เป็นปี๊บๆ เรียนรู้อะไรก็ได้

              แสนไกลหรือแสนแพงจึงจะมีความสุข มีความสุขให้ได้กับชา  ที่ชอบ เช่น อาหารไทย คอมพิวเตอร์ โยคะ ไทเกก-ไทชิ มวยจีน
              ถ้วยนี้ หัดดื่มชาธรรมดาๆ ถ้วยนี้ให้มีความสุขแบบ “ราจ้า-รานี่
              (ภาษาฮินดี อินเดีย = ราชา ราชินี-แขกมักจะเรียกลูกค้า
              แบบนี้ตอนขอทิป เพื่อท�าให้ลูกค้าเคลิบเคลิ้ม ลืมตัว) คนที่มี
              ความสุข “เล็กๆ” บ่อยๆ มีแนวโน้มจะมีความสุขมากกว่า  ๖. มองความทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา

              คนที่มีความสุข “ใหญ่ๆ” นานๆ ครั้ง โดยเฉพาะคนที่มี
              ความสุขง่ายๆ เช่น อาบน�้าธรรมดาๆ กับสบู่ก้อนละไม่ถึง   ไม่ว่าเราจะมีสุขหรือทุกข์ เราก็ไม่ได้สุขหรือทุกข์
              สิบบาทก็มีความสุขได้                            คนเดียว, คนอื่นก็สุขๆ ทุกข์ๆ ขึ้นบ้างลงบ้างแบบนี้ คนที่มีสุข
                                                              ทั้งวันมีเหมือนกัน เช่น คนบ้าบางคนที่สร้างโลกได้ด้วยการ
                                                              ฝันกลางวันประเด็นส�าคัญอยู่ที่ว่า ไม่จ�าเป็นอย่าหมกมุ่น
                                                              อยู่กับความทุกข์ของตัวเอง เพราะจะท�าให้เกิดวงจรแบบ

              ๔. กล้าแสดงออกให้มากขึ้น                        “พายเรือในอ่าง” ท�าให้ความทุกข์ท่วมท้น ทางที่ดีกว่า คือ ลุกขึ้น
                                                              จากเรือ และออกมาจากอ่าง หันไปดูภายนอก ชีวิตจริงมีคน
                    คนที่กล้าแสดงออก (extroverts) มีแนวโน้มจะมี ที่ทุกข์กว่าเรามากมาย เช่น คนในแอฟริกาที่อดตาย ชนกลุ่มน้อย

              ความสุขมากกว่าคนที่ไม่กล้าแสดงออก แม้แต่คนที่ไม่กล้า ในบางประเทศ, ถ้าเรามีอาการ “เศร้า-เหงา-เซ็ง” ก็อย่าเพิ่ง
              แสดงออก (introverts) ถ้าฝึกบ่อยๆ ก็มีความสุขได้ เช่น ฝึก ตกใจ เพราะคนบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ๑๐ คน มีโอกาสเป็น
              ร้องเพลงคาราโอเกะคนเดียวก่อน แล้ววันหลังชวนเพื่อนมา โรคซึมเศร้า มากบ้างน้อยบ้าง ๑ คน, พวกที่ประสาทดีบ้าง
              ลุยกันที่บ้าน ถ้าไม่ชอบร้องเพลงควรหาโอกาสสวดมนต์โดย ร้ายบ้างมากกว่านี้ และพวกที่บ้าอ�านาจ-รักษาไม่หายมีมาก
              เลือกทั้งบาลีและไทย เพื่อให้สมองได้ฝึกระบบภาษาหลายๆ  เหลือเกิน เราไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียว คนอื่นก็ทุกข์เหมือนกัน

              ภาษาไปพร้อมๆ กัน ยิ่งถ้าสวดเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยยิ่งดี





























       46    วารสาร
           ทหารพัฒนา
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53