Page 46 - 3_61
P. 46
เอาไว้แล้วเดิน หากมีเด็ก ๆ หลายคนอาจจัดแข่งเดินกะลาได้ “กติกาของกาฟักไข่ ก็คือ คนข้างนอกต้องแย่งไข่
ด้วยการก�าหนดเส้นชัยไว้ ใครเดินถึงก่อนก็เป็นผู้ชนะไป มาให้ได้ โดยใช้แขนหรือมือเอื้อมเข้าไป แต่ห้ามน�าตัว
ประโยชน์ของการเดินกะลา ก็คือ ช่วยฝึกการทรงตัว เข้าไปในวงกลม และต้องระวังไม่ให้อีกาถูกมือหรือแขน
ความสมดุลของร่างกาย เพราะต้องระวังไม่ให้ตกกะลา ได้ด้วย หากแย่งไข่ออกมาได้หมดแล้ว ให้ปิดตากา แล้ว
ช่วงแรก ๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเท้า แต่ถ้าฝึกบ่อย ๆ จะชิน น�าไข่ทั้งหมดไปซ่อน เพื่อให้กาตามหาไข่ หากพบไข่ที่ผู้เล่น
และหายเจ็บไปเอง แถมยังท�าให้ร่างกายแข็งแรง เพลิดเพลิน คนใดน�าไปซ่อน ผู้นั้นจะต้องเปลี่ยนมาเป็นกาแทน”
อีกด้วย ๖. งูกินหาง
๕. กาฟักไข่ “แม่งูเอ๋ย กินน�้าบ่อไหน...” ประโยคคุ้น ๆ ของ
เป็นอีกหนึ่งการละเล่นที่เคยได้ยินชื่อ แต่หลายคน การเล่นงูกินหางที่ยังติดตรึงในความทรงจ�าของใคร
ไม่ทราบกติกา โดยวิธีการเล่น ก็คือ ใช้อะไรก็ได้ลักษณะ หลาย ๆ คน และเป็นที่นิยมของเด็กในทุกเทศกาล
กลม ๆ เท่าจ�านวนคนเล่น ยกเว้นผู้ที่เป็นกา ๑ คน ทุกโอกาสอีกด้วย
มาสมมติว่าเป็น “ไข่” แล้วเขียนวงกลมลงบนพื้น ๒ วง วงแรก วิธีการเล่นงูกินหาง เริ่มจากเสี่ยงทาย ใครแพ้ต้อง
เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๔ ฟุต และอีกวงหนึ่งอยู่ข้างใน ไปเป็น “พ่องู” ส่วนผู้ชนะที่มีร่างกายแข็งแรง ตัวใหญ่
วงแรก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ ฟุต วาง “ไข่” ทั้งหมดไว้ จะเป็น “แม่งู” ไว้คอยปกป้องเพื่อน ๆ คนอื่นที่เป็น “ลูกงู”
ในวงกลมเล็ก ให้คนใดคนหนึ่งเป็นกา ยืนในวงกลมวงใหญ่ จากนั้น “ลูกงู” จะเกาะเอวแม่งูและต่อแถวกันไว้
หรือนั่งคร่อมวงกลมเล็ก นอกนั้นทุกคนยืนรอบนอกวงกลม ยืนเผชิญหน้ากับ “พ่องู” จากนั้นจะเข้าสู่บทร้อง โดยพ่องู
วงใหญ่ คอยแย่งไข่ คนเป็นกามีหน้าที่ป้องกันไข่ไม่ให้ถูก จะถามว่า
แย่งไป
44 วารสาร
ทหารพัฒนา