Page 82 - 3_61
P. 82
ในอดีต จังหวัดสมุทรสงครามหรือเมืองแม่กลอง ช่วงประมาณ พ.ศ.๒๔๐๐ - ๒๕๐๐ ชาวสวนในพื้นที่
เป็นพื้นที่ที่ติดกับชายทะเล ซึ่งมีน�้า ๓ สภาพ คือ น�้าเค็ม ต�าบลท้ายหาดและต�าบลบางขันแตก ได้พัฒนาสวนมาเป็น
น�้ากร่อย และน�้าจืด ลักษณะดินเป็นดินเลนเก่า บริเวณที่อยู่ สวนมะพร้าวส�าหรับเก็บน�้าหวาน หรือที่เรียกว่า สวนมะพร้าว
เหนือปากอ่าวน�้าไม่ท่วมขัง จึงเหมาะแก่การท�าการเกษตร น�้าตาล โดยมีการยกร่องปลูกมะพร้าวพันธุ์เก็บน�้าหวาน
อย่างยิ่ง คนที่อยู่ในพื้นที่จึงปลูกมะพร้าวและพืชผักผลไม้ เพื่อน�ามาท�าน�้าตาลข้นแห้งมากขึ้น มีการคัดเลือกพันธุ์
นานาชนิด โดยเฉพาะมะพร้าวซึ่งเป็นพืชที่เหมาะกับสภาพ มะพร้าวและปรับเปลี่ยนพันธุ์ พร้อมทั้งขยายพื้นที่สวน
ดินเลนชายทะเลยิ่งนัก โดยจะพบว่าพื้นที่อ�าเภอเมืองซึ่งอยู่ มะพร้าวน�้าตาลทั้งสองพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้นทุกครัวเรือน
ใกล้ทะเลที่สุดจะอุดมไปด้วยมะพร้าว ทั้งเก็บผลและเก็บ ระหว่าง พ.ศ.๒๔๘๐ - ๒๕๐๐ ซึ่งสามารถผลิตน�้าตาลรวมกัน
น�้าหวาน ส่วนพื้นที่อ�าเภออัมพวา ซึ่งอยู่ในช่วงกลางของ ได้มากถึงวันละประมาณ ๘,๐๐๐ ปีบ ช่วงเวลาดังกล่าวนี้
แม่น�้าแม่กลองจะอุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิด และ เป็นช่วงที่ชาวสวนน�้าตาลมะพร้าวผลิตน�้าตาลมะพร้าว
พื้นที่อ�าเภอบางคนที ซึ่งเป็นบริเวณช่วงปลายที่อยู่ใกล้กับ ด้วยกรรมวิธีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษในอดีตอย่างครบถ้วน
จังหวัดราชบุรี มีเพียงน�้าจืดเท่านั้นจึงสามารถปลูกผักได้ วิธีการเก็บจะแบ่งออกเป็น ๒ รอบ คือ ช่วงเช้าตรู่
แทบทุกชนิด แต่ทุกพื้นที่ล้วนปลูกมะพร้าวไว้ตามคันดิน ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น และช่วงบ่ายแก่ ๆ ที่แสงแดดจะลด
รอบสวน ตรงกลางสวนจะยกเป็นร่องสวนส�าหรับปลูกพืชผัก ความร้อนแรง ชาวสวนจะท�าการปีนต้นมะพร้าว โดยใช้
ผลไม้ ระหว่างร่องสวนเรียกว่า ท้องร่อง หรือเว้นที่ว่างไว้ “พะอง” คือ ไม้ไผ่ที่ใช้ท�าบันไดปีนไต่ เป็นไม้ไผ่ล�าตันหรือ
ส�าหรับปลูกข้าว ซึ่งชาวสวนเรียกว่า ข้าวนาสวน เก็บไว้ เกือบตัน ข้อถี่กว่าปกติ มีก้านแข็งแรงปลายโค้งงอลงนิด ๆ
รับประทานเอง ในสมัยก่อนจะมีประเพณีการเกี่ยวข้าว ตัดเฉียงให้เหลืออยู่พอเท้าเหยียบ เหลาหนามที่อาจหลงอยู่
ชนิดนี้ด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ปัจจุบันน้อยคนนักจะรู้จัก ให้เกลี้ยง เสี้ยมโคนให้แหลมแบบปากฉลาม ฝังดินแน่นไม่โงนเงน
ข้าวนาสวน พันธุ์ข้าวแก้วจากเมืองอยุธยา ปลายตัดเฉียงเช่นกัน ความยาวของล�าไม้ไผ่ขึ้นอยู่กับว่า
80 วารสาร
ทหารพัฒนา