Page 75 - 4_61
P. 75

แต่... ก่อนที่จะใช้ธงสีแดง เป็นเครื่องหมายในเรือสินค้า  ครั้นถึงสมัยกรุงธนบุรีและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ยังคง
              ของไทยนั้น ปรากฏหลักฐานเป็นเรื่องราวในหนังสือจดหมายเหตุ  ใช้ธงสีแดงเกลี้ยงชักเป็นเครื่องหมายประจ�าเรือค้าขายกับ

              ของประเทศฝรั่งเศสว่า  เรือสินค้าของไทยที่เดินทางไป   ต่างประเทศอยู่ ธงแดงนี้ใช้ชักขึ้นทั้งในเรือหลวงและเรือราษฎร
              ต่างประเทศชักธงของฮอลันดา แต่เนื่องจากฮอลันดาและฝรั่งเศส  ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
              เป็นอริกัน ฝรั่งเศสจึงยิงเรือของไทยเสียหายด้วยความเข้าใจผิด   (รัชกาลที่ ๑) ทรงมีพระราชด�าริว่า เรือหลวงกับเรือราษฎรควรมี
              แม้กระนั้นก็ดี เรือของไทยก็ยังนิยมชักธงฮอลันดาอยู่ เพราะเป็น  เครื่องหมายให้เห็นแตกต่างกัน จึงมีพระบรมราชโองการ

              ที่รู้จักกว้างขวางว่าเป็นเรือค้าขาย จนกระทั่งในรัชสมัยสมเด็จ  ให้ท�ารูป “จักร” สีขาวติดไว้กลางธงสีแดงเป็นเครื่องหมาย
              พระนารายณ์มหาราช เมื่อวันที่ ๓ กันยายน พ.ศ.๒๒๒๓ เรือรบ  ใช้เฉพาะเรือหลวง (ภาพที่ ๒) ส่วนเรือค้าขายของราษฎรทั่วไปนั้น
              ของฝรั่งเศสชื่อ เลอรโวตูร์ โดยมี มองซิเออร์ คอนูแอน เป็น   ยังคงใช้สีแดงเกลี้ยงอยู่
              นายเรือ ได้น�าเรือเข้ามาถึงปากแม่น�้าเจ้าพระยา เพื่อเจริญ

              พระราชไมตรี และการค้า นายเรือได้สอบถามทางกรุงศรีอยุธยา
              ว่า “ถ้าจะยิงสลุต (ยิงปืนให้ความเคารพ) ให้แก่สยาม เมื่อเรือผ่าน
              ป้อมวิไชยเยนทร์ (ปัจจุบันคือป้อมวิชัยประสิทธิ์) ตามประเพณี
              ของชาวยุโรป จะเป็นการขัดข้องหรือไม่” สมเด็จพระนารายณ์

              ทรงอนุญาต และรับสั่งให้เจ้าเมืองบางกอก คือ ออกพระศักดิ์
              สงคราม ให้ทางป้อมยิงสลุตตอบด้วย และในการที่เรือรบฝรั่งเศส
              ได้ยิงสลุตให้นั้น ทางป้อมก็ชักธงชาติขึ้น แต่ในห้วงเวลานั้นธงชาติ
              สยามยังไม่มี จึงได้ชักธงชาติฮอลันดาขึ้นแทน แต่ฝรั่งเศสไม่ยอม

              ยิงสลุต เพราะฮอลันดาเป็นอริกับฝรั่งเศส และเห็นว่าไม่ใช่ธงของ
              ชาติสยาม จึงแจ้งให้ทราบว่า หากสยามประสงค์จะให้ฝรั่งเศส       ภาพที่ ๒ ธงสยาม (รัตนโกสินทร์ตอนต้น)
              ยิงสลุตให้ ก็เอาธงฮอลันดาลงเสีย แล้วชักธงอย่างหนึ่งอย่างใด  พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
              ขึ้นแทน เผอิญในสมัยนั้น ธงสีแดง ถือเป็นธงที่สยามใช้ส�าหรับ

              เป็นธงน�าทัพอยู่แล้ว สยามจึงน�าธงแดงชักขึ้น จากนั้นฝรั่งเศสจึง   เมื่อถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
              ยิงสลุตให้ ด้วยเหตุนี้สยามจึงถือเอา ธงสีแดง เป็นธงชาติสยาม   นภาลัย พ.ศ.๒๓๖๐ - ๒๓๖๖ (รัชกาลที่ ๒) ประเทศอังกฤษได้เข้า
              (ภาพที่ ๑)                                         มาตั้งสถานีการค้าขายอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และพระองค์ท่าน

                                                                 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเรือก�าปั่นของหลวงขึ้น ๒ ล�า
                                                                 เพื่อล่องค้าขายระหว่างสิงคโปร์และมาเก๊า โดยที่เรือหลวงทั้ง
                                                                 สองล�าดังกล่าวจะชักธงแดงตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่

                                                                 สมัยอยุธยา กระทั่งวันหนึ่งประเทศอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าเมืองสิงคโปร์
                                                                 ได้บอกกับนายเรือหลวงของสยามให้มากราบบังคับทูลพระเจ้า
                                                                 กรุงสยามว่า ... “เรือเดินทะเลชาวมลายูที่ค้าขายกับสิงคโปร์ก็
                                                                 ชักธงแดงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงขอให้พระเจ้ากรุงสยามใช้
                                                                 ธงอย่างอื่นเสีย เพื่อจะได้จัดการรับรองเรือหลวงได้สะดวกและ

                                                                 ไม่สับสน”... และที่ส�าคัญในช่วงรัชกาลที่ ๒ นี้ พระองค์ทรง
                                                                 ได้ช้างเผือกเอกมาสู่พระบารมีถึง ๓ ช้าง คือ พระเศวตกุญชร

                              ภาพที่ ๑ ธงชาติสมัยแรก             พระยาเศวตไอยรา และพระยาเศวตคชลักษณ์ ซึ่งถือเป็น
                 ใช้เป็นธรรมเนียมสืบมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  พระเกียรติยศอย่างสูง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท�ารูปช้าง
                       แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.๒๑๙๙ – พ.ศ.๒๓๒๕     สีขาวยืนพื้นอยู่ในวงจักรสีขาวติดไว้กลางธงแดง (ภาพที่ ๓)
                   (ธงเรือหลวง) พ.ศ.๒๑๗๕ – พ.ศ.๒๓๙๘ (ธงเรือราษฎร)
                                                                 อันมีความหมายว่า “พระเจ้าแผ่นดินผู้มีช้างเผือก” และธง




                                                                                                          วารสาร 73
                                                                                                        ทหารพัฒนา
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80