Page 65 - วารสาร ฉบับที่ ๔
P. 65
๓. การสาธารณูปโภค
การประปา ทรงให้กักเก็บน�้าจากแม่น�้าเชียงรากน้อย จังหวัดปทุมธานี
และขุดคลองเพื่อส่งน�้าเข้ามายังสามเสน พร้อมทั้งฝังท่อเอกติดตั้งอุปกรณ์
ส�าหรับการท�าน�้าประปาขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๒
การคมนาคม วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชด�าเนินไปขุดดินก่อพระฤกษ์
เพื่อประเดิมการสร้างทางรถไฟไปนครราชสีมา แต่ทรงเปิดทางรถไฟกรุงเทพฯ-
พระนครศรีอยุธยา ก่อน จึงนับว่าเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟแห่งแรก
ของไทย
นอกจากนี้ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพาน และถนนอีกมากมาย คือ
ถนนเยาวราช ถนนราชด�าเนินกลาง ถนนราชด�าเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา
ถนนอุณากรรณ เป็นต้น และโปรดให้ขุดคลองต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทาง
คมนาคมและส่งเสริมการเพาะปลูก
การสาธารณสุข เนื่องจากการรักษาแบบยากลางบ้านไม่สามารถช่วยคนได้อย่างทันท่วงที จึงพระราชทานพระราช
ทรัพย์ส่วนพระองค์จ�านวน ๒๐๐ ชั่ง โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลัง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงพยาบาลศิริราช”
เปิดท�าการรักษาประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๑
การไฟฟ้า พระองค์ทรงมอบหมายให้กรมหมื่นไวยวรนาถ เป็นแม่งานในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๓
การไปรษณีย์ โปรดให้เริ่มจัดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๒๔ รวมอยู่ในกรมโทรเลข ซึ่งได้จัดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๒ โดยโทรเลข
สายแรกคือ ระหว่างจังหวัดพระนคร (กรุงเทพมหานคร) กับจังหวัดสมุทรปราการ
๔. การเสด็จประพาส
การเสด็จประพาสเป็นพระราชกรณียกิจที่ส�าคัญอย่างหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยหลัง
จากเกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสแล้ว ก็ได้เสด็จประพาสยุโรป ๒ ครั้ง ในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ครั้งหนึ่ง และในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ อีก
ครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ตลอดจนประเทศฝรั่งเศสด้วย อีกทั้งยังได้ทรงเลือกสรรเอา
แบบแผนขนบธรรมเนียมอันดีในดินแดนเหล่านั้นมาปรับปรุงในประเทศให้เจริญขึ้น
ในการเสด็จประพาสครั้งแรกนี้ ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาตลอดระยะทางถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี
พระบรมราชินีนาถ (ซึ่งต่อมาได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชเทวี) ผู้ส�าเร็จราชการแผ่นดิน พระราช
หัตถเลขานี้ต่อมาได้รวมเป็นหนังสือเล่มชื่อ “พระราชนิพนธ์เรื่องไกลบ้าน” ให้ความรู้อย่างมากมายเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ
ที่เสด็จฯ
ส่วนภายในประเทศ ทรงถือว่าการเสด็จประพาสในที่ต่าง ๆ เป็นการตรวจตราสารทุกข์สุกดิบของราษฎรได้เป็นอย่างดี
พระองค์จึงได้ทรงปลอมแปลงพระองค์ไปกับเจ้านายและข้าราชการ โดยเสด็จฯ ทางเรือมาดแจวไปตามแม่น�้าล�าคลองต่าง ๆ
เพื่อแวะเยี่ยมเยียนตามบ้านราษฎร ซึ่งเรียกกันว่า “ประพาสต้น” ซึ่งได้เสด็จฯ ๒ ครั้ง คือในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ และใน
ปี พ.ศ. ๒๔๔๙ อีกครั้งหนึ่ง
๕. การศึกษา
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความส�าคัญของการศึกษา จึงโปรดให้สร้างโรงเรียนหลวงขึ้นใน
พระบรมมหาราชวัง คือ “โรงเรียนนายทหารมหาดเล็ก” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนพระต�าหนักสวนกุหลาบ” ต่อ
มาโปรดให้ตั้งโรงเรียนหลวงส�าหรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก คือ “โรงเรียนวัดมหรรณพาราม” และในที่สุดได้โปรดให้จัดตั้ง
กระทรวงธรรมการขึ้น เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๕ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาและการศาสนา
วารสาร 65
ทหารพัฒนา