Page 97 - 3_61
P. 97
ระบบก๊าซชีวภาพจากอุตสาหกรรม
ทางการเกษตร
ประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมทางการเกษตร
มากกว่า ๕,๐๐๐ โรงงาน ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง
กระจายทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เทคโนโลยีบ�าบัดน�้าเสีย
ยังคงใช้ระบบบ่อเปิด แต่ก็มีโรงงานบางส่วนที่เริ่มมองหา
เทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยเทคโนโลยีการบ�าบัดน�้าเสีย
แบบไร้อากาศได้รับความสนใจมากขึ้น ได้แก่ โรงงาน
อุตสาหกรรมอาหาร โรงงานน�้าตาล โรงงานแป้งมันส�าปะหลัง
โรงงานสกัดน�้ามันปาล์ม โรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น
ใช้ได้เอง โดยก๊าซชีวภาพ ๑ ลูกบาศก์เมตร มีค่าความร้อน
21.5 MJ หรือเท่ากับค่าความร้อนของก๊าซหุงต้ม (Liquefied ระบบก๊าซชีวภาพจากขยะมูลฝอย
PetroleumGas: LPG) q. ๔๖ กก. หรือไฟฟ้า 1.2 kWh การก�าจัดขยะชุมชนในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้
และถ่าน ๑.๖ กก. วิธีการฝังกลบ ซึ่งที่ถูกต้องควรจะเป็นการฝังกลบอย่างถูกหลัก
นอกจากก๊าซมีเทนแล้ว ยังมีก๊าซไฮโดรเจน สุขาภิบาล โดยสามารถผลิตก๊าซจากหลุมขยะ เป็นผลพลอยได้
ซึ่งสามารถผลิตได้จากกระบวนการผลิตต่าง ๆ ทั้งจาก ด้วย แต่เทคโนโลยีการผลิตก๊าซจากหลุมขยะในเมืองไทย
กระบวนการที่ท�าให้โมเลกุลขนาดใหญ่มีขนาดเล็กลง ในปัจจุบันยังคงประสบปัญหาด้านคุณภาพและปริมาณ
(cracking) และกระบวนการแยกไฮโดรเจนจากน�้าด้วยไฟฟ้า ซึ่งไม่คงที่ของก๊าซชีวภาพที่เกิดขึ้น ปัจจุบันมีเฉพาะที่เทศบาล
(electrolysis) เมืองระยอง จังหวัดระยอง ที่ใช้เทคโนโลยีระบบ CSTR
ระบบก๊าซชีวภาพที่ใช้อย่างแพร่หลายมีหลายวิธี เพื่อย่อยสลายขยะอินทรีย์ในถังหมักแบบไร้อากาศ
ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของน�้าเสีย/ของเสีย ในครั้งต่อไปจะมีระบบก๊าซชีวภาพจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์
โดยสรุป เทคโนโลยีที่ใช้ในประเทศไทยตามแหล่งที่มา รวมถึงกระบวนการบ�าบัดน�้าเสียด้วยวิธีทางชีวภาพโดยอาศัย
ของของเสีย/น�้าเสีย จุลินทรีย์ ติดตามอ่านกันได้ในฉบับหน้านะคะ
วารสาร 95
ทหารพัฒนา