Page 60 - Magazine ทหารพัฒนา
P. 60
ย้อนอดีต
เมืองสยาม
ปู่ด้วง
ตำ นาน
นกหัสดีลิงค์
แ ผ่นดินอีสานอาลัย น้อมส่ง หลวงพ่อคูณ อย่าง
สมเกียรติ....ปู่ได้ติดตามงานพระราชทานเพลิงศพ
พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แล้วได้
เห็นอริยะประเพณีโบราณในการปลงศพพระมหาเถระ
ที่คิดว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคงยังไม่เคยเห็น จึงเป็น
โอกาสอันดีที่ปู่จะไปหาข้อมูลเกี่ยวกับ เมรุนกหัสดีลิงค์
มาฝากท่านผู้อ่านทุกคนกันนะครับ...
นกหัสดีลิงค์ เป็นความเชื่อที่ปรากฏตั้งแต่พุทธ
ศตวรรษที่ ๑๐-๑๓ ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ โดยสิ่งที่
ปรากฏนั้นเป็นจินตนาการของชุมชน โดยอาศัย
“คัมภีร์จักภวาฤทีปน์” ซึ่งเป็นคัมภีร์ทางพุทธศานา
ที่พยายามอธิบายเรื่องราวของโลกและจักรวาล โดยเฉพาะ
เรื่องป่าหิมพานต์ โดยในป่าดังกล่าวยังได้มีการแบ่งสัตว์
ไว้อย่างหลากหลาย เช่น ราชสีห์ เหมราอัศดร มังกร วิหก
คชสีห์ กินนร กินรี นกหัสดีลิงค์ เป็นต้น
ค�าว่า “หัสดีลิงค์” มีความหมายในสารานุกรม
อีสาน ไว้ว่า เกิดลมพายุพัดผ่านฝนกระหน�่าลงมา พระนางประสูติ
หัสดิน หัสดี หมายถึง ช้าง พระโอรสบนต้นไทรใหญ่นั้น จึงขนานนามพระโอรสว่า
หัสดีลิงค์ หมายถึง นกที่มีรูปร่างเหมือนช้าง เป็นนก อุเทน เพราะเมื่อประสูติก็สว่างพอดี ค�าว่า อุเทน หรืออุทัย
ขนาดใหญ่ มีกล่าวไว้ในธรรมบทภาค ๒ ว่า พระเจ้าปรันรัตนะ คือเวลาจวนสว่าง เมื่อพระอุเทน ซึ่งเป็นโอรสได้เสวยราช
เจ้าเมืองนครโกสัมพี ในประเทศอินเดีย พระองค์อยู่บน ในเมืองโกสัมพีสืบต่อจากพระบิดาแล้ว ได้น�าพระมารดา
ปราสาทชั้นสูงสุดกับพระมเหสี พระมเหสีมีครรภ์จวน มาอยู่ในนครโกสัมพี ครั้นเมื่อพระมารดาสวรรคตได้
ประสูติ ขณะบรรทมห่มผ้าสีแดง นกหัสดีลิงค์บินมาพบเข้า จัดการพระบรมศพ โดยเอานกหัสดีลิงค์ตัวนั้นมารอง
ส�าคัญว่าเป็นก้อนเนื้อ จึงบินมาโอบเอาพระมเหสีไปวาง พระบรมศพ เผาทั้งนกและนางพร้อมกัน การที่น�านก
ไว้บนคาคบต้นไม้ใหญ่ในป่าหิมพานต์ ตกเวลาจวนจะรุ่ง หัสดีลิงค์มาเผาก็เพราะเกี่ยวข้องกับพระมารดา ดังกล่าว
58 วารสาร
ทหารพัฒนา