Page 107 - วารสารทหารพัฒนา ปี64 ฉบับที่ 2
P. 107

77



              อาการของโรค (Clinical signs)
                    สัตว์ทเป็นโรคจะแสดงอาการไข้สูงได้ถึง 41 องศา
                        ่�
                         ื
                  ่
              เซลเซยส ซม เบ�ออาหาร ซบผอม เย�อจมูกอกเสบ เย�อตาขาว
                                            ั
                                                  ื
                                       ื
                                ู
                      ึ
                    ่
                                             �
                                             ้
                                        ิ
              อักเสบ มปริมาณนาลายมากกว่าปกต ต่อมนาเหลืองบวมโต
                           ้
                           �
               ั
              ทวร่างกาย เกิดตุ่มบริเวณผิวหนังขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
               �
              ประมาณ 2-5 ซม. บริเวณหัว คอ ขา เต้านม อวัยวะเพศ
                                                  ่
              ภูายใน 48 ชม. หลังจากแสดงอาการป่วย โดยตุ่มมลักษณะ
                        ้
                        ึ
                                 ั
                             ิ
                ็
                      ู
                                                 �
                                                 ึ
                                              �
                                        ั
              แขง กลม นนขนจากผวหนงโดยรอบดงภูาพท่ 2 ซง ในระยะ
                                                      ่
                     ื
              เร�มต้นเชอจะแพร่กระจายในกระแสเลือด เกิดตมนูนทม ่
                                                      �
               ิ
                                                 ่
                     ้
                                                 ุ
                                                                               ่�
                      ่
                                                 ิ
                                              ็
                                                   ึ
                                                   ้
                                  ื
                               ็
                                         ่
                                  ้
              ขนาดใหญและกลายเปนเนอตาย มแผลเปนเกดขนและ      ภาพที่ 2 แสดงส่วนตุ่มนูนทเกิดขึ้นหลังการติด LSD
                  ู
                                       ่
                  ่
              คงอยเป็นเวลาหลายเดือน ส่วนตมนูนขนาดเล็กสามารถ
                                       ุ
                                     �
                                   ่
                                     ้
              หายได้เร็วกว่าสามารถพบตมนา หรือแผลจากการแตก  พยาธิ์ิวิทยา (Pathological)
                                   ุ
                                                                                    ่
                  ่
                                                      ื
                                   ้
                                               ิ
                                                      ้
                    ้
                    �
                       ้
                  ุ
              ของตมนาได โดยแผลเหล่านสามารถทาให้เกดการติดเชอ     จากการติด LSDV ไวรัสมการเจริญเติบโต เข้าสู่
                                          �
                                   ่
                                                                       �
                                                                                                   ื
                                                                                          �
                                                                                        ิ
                                                  �
              แทรกซ้อนได้ (Secondary infection) ในบริเวณเยือเมือก  กระแสเลือดจนทาให้เกิดไข้และมักไปเพ�มจานวนของเช้อ
                                                                                               �
                                                               �
              ในช่องปาก ทางเดินอาหารหลอดลม และปอดได้ อาจพบ  ไวรัสท่ผิวหนังก่อให้เกิดตุ่มนูน อย่างไรก็ตาม อาการท่ปรากฏ
                                                                         ่
                                                                         �
                                                   �
              การบวมน�้าในบริเวณส่วนท้อง ส่วนขาของตัวสัตว์ ซึงจะส่ง  สามารถแบ่งการเปลยนแปลงของรอยโรคออกเป็น 4 ระยะ
              ผลให้สัตว์ไม่อยากเคล�อนไหว ในพ่อพันธุ์อาจจะส่งผลให้เกิด   ตามรายงานของ Namazi F.และTafti A.K., 2021 ดังน ่ ้
                             ื
                        ั
              การเป็นหมันช�วคราว หรือถาวรได้ สาหรับแม่พันธุ์อาจจะส่ง   1.  ระยะท� 1 (4-7 วันหลังการติดเช้อ) พบการบวม
                                                                        ่
                                       �
                                                                                          ื
              ผลให้เกิดการแท้งและเกิดการกลับสัดช้า โคส่วนมากท  ่ �  เป็นตุ่มหรือแผ่นหนา (plaques) ขนาด 1-3 เซนติเมตร
              ติดเชื้อสามารถหายจากโรคอย่างช้า ๆ แต่ยังคงพบรอยโรค  ซึงเป็นบริเวณทไวรัสฟักตัว
                                                                      ่�
                                                            �
                       �
              ทผิวหนัง นานมลดลงและซูบผอมได้ หากอาการรุนแรง      2.  ระยะท่� 2 (6-18 วันหลังการติดเชื้อ) เชื้อเข้าสู่
               ่
                       ้
               �
              โคก็สามารถเสยชวิตได้เช่นกัน (EFSA, 2015)     กระแสเลือดและมการแพร่กระจายของไวรัสโดยสารคัดหลง � ั
                           ่
                        ่
                                                                        ่
                    ในส่วนของสัตว์ท่ติดเช้อแต่ไม่แสดงอาการ     จากช่องปากและจมูก
                                       ื
                                  �
              (Subclinical)  รอยโรคส่วนใหญ่จะอยู่ช้นใต้ผิวหนัง     3.  ระยะท่� 3 (7-19 วันหลังการติดเชื้อ) พบต่อม
                                              ั
              (Subcutaneous) จนถึงช้นกล้ามเน้อ มักจะพบก็ต่อเม�อ   นาเหลืองตามจุดต่างๆบวมโต และม่ตุ่มเพ�มข้นตามร่างกาย
                                                      ื
                                         ื
                                 ั
                                                            �
                                                            ้
                                                                                          ึ
                                                                                        ิ
                                 ่
               ่
              มการน�าเข้าโรงเชือดหรือมการผ่าซากเพือชันสูตร รอยโรค
                                           �
              มักพบในอวัยวะของระบบหายใจ และพบแผลหลุมตาม         4.  ระยะท่�  4  (42  วันหลังจากม่ไข้)  ระยะน่  ้
              เยอเมือกบริเวณทางเดินอาหารโดยเฉพาะกระเพาะแท้   จะสามารถพบเชื้อไวรัสในน�้าเชื้อพ่อพันธุ์
                ื
                �
                                                                                ื
                                                                       �
                                                                     ิ
                                                                     �
                  ่�
              หรือทเรยกกันว่า Abomasum พื้นผิวบริเวณรอบรอยโรค   การเพมจานวนของเช้อไวรัสในเซลล์ (Intracellular)
                    ่
                                                            �
                                                            ่
                         ้
              มักม่การบวมนาและม่เลือดออก และในบางกรณ่สามารถ   ทเซลล์ไฟโบรบลาสท์ (Fibroblasts) เซลล์เม็ดเลือดขาว
                         �
              พบรอยโรคดังกล่าวได้ทเต้านม ปอด กระเพาะปัสสาวะ ไต     (Macrophages) เซลล์เปอริซัย (Pericytes) และเซลล์
                               ่�
                                                                                       ั
                                                                                                  ื
                                                            �
                                                                              �
                                                                                   ิ
                                                               ุ
                                                            ื
              มดลูก อัณฑะ (FAO, 2017) จากการรายงานของ Spickler   เยอบ (Endothelial cells) ทาให้เกดการอกเสบของเส้นเลอด
                                                                                              ้
              A.R., 2008 พบว่าม่การอักเสบของข้อต่อ (synovitis)  (Vasculitis)  และเกิดการอักเสบของต่อมน�าเหลือง

              และเส้นเอ็นต่าง (tendosynovitis) ร่วมด้วย    (Lymphangitis)
                                                                                   ี
                                                                                  ปีท่ 45 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564
                                                                                  Volume 45 Issue 2 May - August 2021
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112