Page 30 - วารสารเล่มที่1ปี62
P. 30

งานสนับสนุนกับ
          การปฏิบัติงาน
          กฎหมาย








          ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง





          ผู้รวบรวม     พ.อ. ชุมพร ไผ่นาค         ต�าแหน่ง  ผอ.กจห.สสน.นทพ.

          Credit by     คุณ ชุณหจิต  สังฆ์ใหม่     ต�าแหน่ง ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง


               เป็นเวลาครบหนี่งปีมาแล้ว ที่พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งได้ประกาศ
          ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐ และมีผลใช้บังคับในวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐ โดยหน่วยงาน
          ของรัฐที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายฉบับนี้ ประกอบด้วย ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การ

          มหาชน หน่วยงานอิสระของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัย
          ในก�ากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในก�ากับของรัฐสภา หน่วยงานอิสระของรัฐ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วย
          มีการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมาตรฐานกลาง ส�าหรับใช้เป็นแนวทางในการด�าเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของ
          หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง

               ถ้ากล่าวถึงการพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมาจากอดีต เราใช้ระเบียบส�านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ
          พ.ศ.๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีวิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วยกัน ๖ วิธีประกอบด้วย ๑.วิธีตกลงราคา ๒.วิธีสอบราคา
          ๓.วิธีประกวดราคา ๔.วิธีพิเศษ ๕ วิธีกรณีพิเศษ ๖.วิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง
          ก�าหนด ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ก็ได้มีการออกระเบียบส�านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

          พ.ศ.๒๕๔๙ ( E - AUCTION ) และในปีพ.ศ.๒๕๖๐ ได้มีประกาศเป็นพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ
          ภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งสาระส�าคัญของกฎหมายพอสรุปได้ดังนี้

          ๑. ขอบเขตการใช้บังคับ

                พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับกับหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง ได้แก่ ราชการส่วนกลาง ราชการ ส่วนภูมิภาค ราชการ
          ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ

          หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในก�ากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในก�ากับของรัฐสภา หน่วยงานอิสระของรัฐ
          และหน่วยงานอื่นตามที่ก�าหนดในกฎกระทรวง ซึ่งด�าเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้เงินงบประมาณ

          ๒. หลักการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ

                   (๑) คุ้มค่า คือ พัสดุที่จัดหามีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้งานของหน่วยงานของ
          รัฐมากที่สุด และมีราคาที่เหมาะสม
                 (๒) โปร่งใส คือ เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และมีการเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง

          ทุกขั้นตอนในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง
                 (๓) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล คือ มีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุล่วงหน้าและมีการ
          ประเมินผลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุทุกปี
                 (๔) ตรวจสอบได้ คือ มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ




        28      วารสาร
              ทหารพัฒนา
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35