Page 47 - 3_60
P. 47

ตูบปู่ตา  หรือโฮงผีปู่ตา  โดยชาวไทญ้อถือว่าผีปู่ตาคือ    ๒. ชนเผ่าภูไท หรือ ผู้ไท
              ผีบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ว แต่ยังมีความห่วงใยในความเป็นอยู่ของ
              ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ ส�าหรับที่ตั้งของผีปู่ตาจะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่   ชาวภูไทเป็นชาวจังหวัดนครพนมเผ่าหนึ่ง ที่อาศัย
              ส�าหรับผีบรรพบุรุษของชาวไทญ้อที่ถือว่าเป็นผีปู่ตา มีดังนี้ คือ  อยู่ในเขตอ�าเภอเรณูนคร อ�าเภอนาแก อ�าเภอธาตุพนม อ�าเภอ

                       ผีเจ้าพ่อขุนส�าราญ ญาพ่อผีลือสองนางพี่น้องเป็นผี   นาหว้า เดิมตั้งถิ่นฐานในแคว้นสิบสองจุไทย แคว้นสิบสองปันนา
              ผู้หญิงที่ชอบความสวยงาม ชาวไทญ้อจะให้ความส�าคัญกับผีสอง  ชาวภูไทได้อพยพจากฝั่งซ้ายของแม่น�้าโขงเข้ามาอยู่ในประเทศไทย
              นางพี่น้อง ในด้านการป้องกันให้ความช่วยเหลือแก่เด็กๆ ของ  ในปี พ.ศ. ๒๓๖๙ ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
              ชาวไทญ้อ โดยทั่วๆ ไปชาวไทญ้อชอบตั้งถิ่นฐานที่อยู่ใกล้แม่น�้า    เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่รักษาวัฒนธรรมของตนไว้ได้อย่างดี
              เพื่อสะดวกในการอุปโภคบริโภค  ซึ่งด้วยสาเหตุที่มีเด็กๆ       ความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวภูไทก็เหมือนกับ
              เสียชีวิตในการอาบน�้าบ่อยๆ ท�าให้ชาวไทญ้อลดจ�านวนลง  ครอบครัวไทยทั่วๆ ไป คือ ในครอบครัวก็จะมีพ่อเป็นใหญ่
              เรื่อยๆ เหตุนี้ชาวไทญ้อจึงมีโฮงผีปู่ตาสองนางพี่น้องไว้ที่ท่าน�้า    ที่สุด รองลงมาคือ แม่ พี่คนโต และรองลงไปตามล�าดับ ในอดีต

              เพื่อรักษาเด็กในขณะลงอาบน�้า  เช่นเดียวกับชาวไทญ้อ    เมื่อ ๔๐ ปีก่อน สังคมภูไทได้ให้ความส�าคัญต่อผู้เป็นสามีมาก
              ที่ท่าอุเทน มีความเชื่อว่าผีมเหสักข์ และผีบรรพบุรุษ คอยปกป้อง   ในปัจจุบันก็ยังให้ความนับถืออยู่ เพียงแต่ลดพฤติกรรมบางอย่าง
              คุ้มครองให้พวกตนอยู่เย็นเป็นสุข มีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์    ลงไป เช่น การสมมาสามีในวันพระ บางคนไม่ได้ท�าเลย
              เพื่อตอบแทนคุณผีดังกล่าว ชาวไทญ้อที่ท่าอุเทนจึงมีประเพณี  โดยเฉพาะภรรยารุ่นใหม่ แต่จะสมมาสามีตอน “ออกค�า”
              เลี้ยงผี โดยจัดพิธีกรรมที่เรียกว่า “ลงนางเทียม” ณ หอผีบ้าน   (ออกจากการอยู่ไฟใหม่ๆ) เหมือนในอดีตเพราะสามีเป็นผู้ล�าบาก
              เป็นประจ�าทุกปี ปีละ ๓ ครั้ง                       ทุกข์ยาก อดตาหลับขับตานอน ตักน�้าหาฟืนดูแลภรรยาที่อยู่ค�า
                       ศิลปะการแสดงฟ้อนไทญ้อ โดยจะพบในช่วง       (การอยู่ค�าภาษาลาวจึงเรียกว่า “อยู่กรรม”)
              เทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน และเทศกาลที่ส�าคัญๆ เท่านั้น      ด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิต นอกจากเอกลักษณ์
              ในช่วงสงกรานต์นั้น ชาวไทญ้อจะมีการสรงน�้าพระในตอนกลางวัน   ทางด้านการแต่งกายแล้ว ชาวภูไทมีการสร้างท�านองดนตรี

              โดยมีการตั้งขบวนแห่จากคุ้มเหนือไปยังคุ้มใต้ตามล�าดับ ตั้งแต่  ที่เรียกกันว่า ลาย มีแบบบ้านภูไท แต่ปัจจุบันมักปลูกบ้านอาศัย
              ขึ้นหนึ่งค�่าเป็นต้นไปจนถึงวันเพ็ญสิบห้าค�่า เดือนห้า ส่วนใน  แบบไทย และในการแสดงฟ้อนภูไท ผู้ฟ้อนจะสวมเล็บยาว ปลาย
              ตอนกลางคืนหนุ่มสาวจะจัดขบวนแห่น�าต้นดอกจ�าปา (ลั่นทม)    มีพู่สีแดง ฟ้อนเพื่อถวายองค์พระธาตุ และฟ้อนในพิธีต้อนรับ
              ไปบูชาวัดที่ผ่านไป เริ่มจากวัดใต้สุดขึ้นไปตามล�าดับถึงวัดเหนือสุด
              ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย เสร็จพิธีแห่ดอกไม้บูชาองค์พระธาตุท่าอุเทน
              จะเป็นช่วงแห่งการเกี้ยวพาราสี การหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
              ของบรรดาหนุ่มสาวชาวไทญ้อ

              การแต่งกายชุดร�าไทยญ้อ
                       ชาย  สวมเสื้อคอพวงมาลัยสีเขียวสด  ใช้สไบไหม
              สีน�้าเงินพับครึ่งกลาง พาดไหล่ซ้ายและขวา  ปล่อยชายสองข้าง                                 เผ่าภูไท

              ไปด้านหลังให้ชายเท่ากัน นุ่งผ้าโจงกระเบนสีน�้าเงินเข้ม
              ใช้สไบไหมสีแดงคาดเอว ปล่อยชายข้างซ้ายด้านหน้า
              เครื่องประดับสร้อยเงิน ห้อยพระ  ใบหูทัดดอกดาวเรือง
              ด้านซ้าย
                       หญิง  สวมเสื้อแขนกระบอกสีชมพู (สีบานเย็น)
              คอกลมขลิบด�า หรือน�้าเงินเข้ม นุ่งผ้าถุงไหมสีน�้าเงิน
              มีเชิง  (ตีนจก)  เข็มขัดลายชิดคาดเอว ใช้สไบไหมสีน�้าเงิน

              พาดไหล่ด้านซ้ายแบบเฉียง ปล่อยชายยาวทั้งด้านหน้า
              และด้านหลังให้ชายเท่ากัน เครื่องประดับสร้อยคอ
              ต่างหู สร้อยข้อมือเครื่องเงิน ผมเกล้ามวยประดับดอกไม้สด
              หรือดอกไม้ประดิษฐ์




                                                                                                          วารสาร 45
                                                                                                        ทหารพัฒนา
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52